วันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

พ่อรวยสอนลูก กับ นพรัตน์ ทองศักดิ์



หนังสือพ่อรวยสอนลูกนี้เพื่อนซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดของผมเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว เป็นของขวัญวันเกิดที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่จริง ๆ ยิ่งอ่านบ่อย ๆ ยิ่งเกิดความรู้สึกว่า อิสรภาพทางด้านการเงินและเวลา เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมาก และอดคิดไม่ได้ว่า สักวันหนึ่งต้องเป็นตาเราบ้าง

ยอมรับว่าอ่านเพื่อหาว่าจะทำอะไร แล้วจึงจะรวย แต่ผู้แต่ง ไม่ได้บอกว่าให้ทำอะไรแล้วจะรวย แต่ในเรื่องกับบอกถึงการต่อสู้ระหว่างความคิดของพ่อสองคน คนหนึ่งเป็นพ่อจน อีกคนหนึ่งเป็นพ่อรวย และบอกว่า โดยเฉพาะในเรื่องของเป้าหมายในชีวิตและการลงทุน ..สิ่งเด็ดๆที่ได้ก็เช่น บ้าน จริงๆคือหนี้สิน ไม่ใช่ สินทรัพย์ , Debt มีทั้ง Good Debt และ Bad Debt ใช้มุมในการสร้าง "รายได้"เป็นตัวกำหนด , มุมมองของการเป็นผู้ประกอบการ , มุมมองในเรื่องของภาษีระหว่างลูกจ้างกับเจ้าของ --แต่บางอย่างก็ ได้รับผลกระทบโดยตรงกับ Sub prime ครั้งนี้ โดยเฉพาะ เรื่องของ "การลงทุนใน Real Estate โดยเน้น Leveraged ...แต่ภาพรวมผมมองว่า เป็น หนังสือที่ดี ที่"จุดประกายความคิด โดยเฉพาะคนที่อยากมีมุมมองใหม่ๆ เกี่ยวกับด้าน การเงิน ที่ไม่ได้มีสอนในโรงเรียน"

Income (รายได้) มีอยู่ 3 แบบ "จาก หนังสือ ชุด Rich dad poor dad"
1. Earned Income คือ รายได้ จากเงินเดือน กลุ่มนี้คือ คนจน
2. Passive Income คือ รายได้จาก กิจการ (ที่เราไม่ต้องลงแรงโดยตรง) ซึ่งก็รายได้ จากกิจการที่เราเป็นเจ้าของ (แต่กว่าจะเป็น Passive Income คุณก็ต้องผ่านการ ทำงานหนักอย่างแสนสาหัส กว่าที่จะสร้างกิจการของ...ตัวเองให้ ยิ่งใหญ่จนสามารถจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้)
3. Portfolio Income คือ รายได้ จากการลงทุน ซึ่งเป็นรายได้ ที่ "คนจน" สามารถเอื้อมถึง เพราะการลงทุน เราสามารถเริ่มลงทุนตั้งแต่เงินก้อนเล็กๆ (อย่าง Value Investor ก็ได้พิสูจน์ ว่า คนธรรมดา สามารถมีเงินเป็น สิบ เป็นร้อยล้านได้เช่นกัน)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น